การยกใบปัดน้ำฝนนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจากกระจกในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดได้ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้ว การยกก้านปัดน้ำฝนนั้นแทบจะไม่ส่งผลต่ออายุของยางใบปัดน้ำฝนเลย แถมยังส่งผลให้ ก้านสปริงที่ทำหน้าที่กดให้แผ่นยางแนบสนิทกับผิวกระจกเกิดอาการล้า ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือ แรงกดของใบปัดน้ำฝนบนกระจกลดลง ทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมการปัดน้ำฝนลดลง ไม่สามารถปัดน้ำฝนให้เกลี้ยง หรือเกิดเสียงและอาการกระตุกขณะปัดน้ำฝนได้
หากต้องการยืดอายุใบปัดน้ำฝน ควรหมั่นใส่ใจดูแลทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ง่ายๆดังนี้
1.ควรเลือกจอดรถในร่ม เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนที่ส่งผลต่อยางใบปัดน้ำฝน อาจทำให้ยางเสียรูปทรงหรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทำให้ประสิทธิภาพของการปัดน้ำฝนลดลงอีกด้วย
2.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างรถยนต์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นๆในการทำความละอาดใบปัดน้ำฝน เพราะในน้ำยาอาจมีสารบางชนิดที่ลดประสิทธิภาพของสารเคลือบยางใบปัดน้ำฝน
3.หลีกเลี่ยงการใช้ใบปัดน้ำฝนโดยไม่ฉีดน้ำช่วย เพราะใบปัดน้ำฝนนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับพื้นผิวที่เปียก การใช้ใบปัดบนพื้นผิวที่แห้งบ่อยๆอาจทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วได้ แนะนำเปิดใช้งานใบปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจกอย่างสม่ำเสมอก่อนออกเดินทาง เพื่อช่วยให้ยางใบปัดน้ำฝน คงสภาพการใช้งานไม่แห้งแตก เสมือนได้ใช้งานอยู่เป็นประจำ
4.หมั่นความสะอาดใบปัดน้ำฝน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
5.หมั่นทำความสะอาดกระจกบังลม จากคราบฝุ่นละอองและคราบน้ำมันด้วยน้ำยาสำหรับการเช็ดกระจกโดยเฉพาะ การใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกผิดประเภทอาจทำให้กระจกและใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้